กุมภาพันธ์ 7, 2020 In บทความ-ความรู้กฎหมาย

ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่คืออะไร

ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่คืออะไร

ธุรกิจประเภทนี้มีวิวัฒนาการมาจากธุรกิจแชร์ลูกโซ่ และจะแตกต่างจากธุรกิจขายตรงโดยทั่วไป เพียงแต่ได้เปลี่ยนวิธีการและรูปแบบในการดำเนินการ โดยจะมีการชักชวนให้ประชาชนมาสมัครเป็นสมาชิกเข้าร่วมเป็นเครือข่าย และสัญญาว่าจะให้ประโยชน์ตอบแทนจากการชักจูงผู้อื่นให้เข้ามาร่วมเป็นเครือข่ายด้วย โดยธุรกิจประเภทดังกล่าวไม่ได้สนใจที่จะจำหน่ายสินค้าหรือบริการไปสู่ผู้บริโภคแต่อย่างใด แต่จะเอาสินค้าหรือบริการมาใช้บังหน้าในการประกอบธุรกิจเท่านั้น ประกอบกับธุรกิจนี้จะมีการโฆษณาชวนเชื่อและอวดอ้างสรรพคุณสินค้า จนเกินจริงและมีการแอบอ้างบุคคลสำคัญ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือจนทำให้เกิดความน่าสนใจในการที่จะเข้ามาลงทุนด้วย

ลักษณะของธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่
1. มีการชักชวนประชาชนให้สมัครเป็นสมาชิกให้ร่วมเข้าเป็นเครือข่าย โดยโดยจะไม่มุ่งเน้นในการจำหน่าย สินค้าหรือบริการ
2. ผลตอบแทนจากธุรกิจประเภทดังกล่าวมาจากการหาสมาชิกมาเข้าร่วมลงทุนเพิ่ม ไม่ได้มาจากการจำหน่าย สินค้าหรือบริการแต่อย่างใด
3. ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่จะมีการเก็บค่าสมัครสมาชิกค่อนข้างสูง และจะมีการให้ซื้อสินค้า ที่มีคุณภาพต่ำ
4. มีการดำเนินงานอย่างเป็นขบวนการ มีแม่ทีมในการออกหาสมาชิกเพิ่ม

ธุรกิจขายตรงแตกต่างจากแชร์ลูกโซ่อย่างไร
หลังจากแชร์ลูกโซ่ได้ระบาดอย่างหนักเมื่อประมาณยี่สิบปีก่อนและเข้ามาแฝงอยู่ในธุรกิจขายตรงในปัจจุบันซึ่งกลายเป็นภาพซ้อนที่ทำให้เกิดความไม่ชัดเจนว่าธุรกิจขายตรงแตกต่างกับแชร์ลูกโซ่อย่างไร ซึ่งหากเป็นธุรกิจ แชร์ลูกโซ่ธรรมดาก็เป็นเรื่องที่สามารถทำความเข้าใจได้ไม่ยาก เพราะจะมีการล่าหัวคิวหรือลงทุนแล้วรอรับส่วนแบ่งกันตรงไปตรงมาแทบไม่มีสินค้าหรือทำธุรกิจกันจริงตามที่กล่าวอ้าง ในขณะอีกด้านหนึ่ง แชร์ลูกโซ่ที่แฝงตัวเข้ามาในระบบธุรกิจขายตรงจะทำกันอย่างแนบเนียน พัฒนาไปจากแชร์ลูกโซ่แบบธรรมดามากโดยทำเหมือนว่าเป็นบริษัทขายตรงที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่แท้ที่จริงแล้วได้สร้างเงื่อนไขที่เป็นการเอารัดเอาเปรียบขึ้นมาใหม่ ดูผิวเผินเหมือนไม่ใช่การระดมเงินหรือหลอกล่อเอาผลประโยชน์ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นการดึงเม็ดเงินโดยผ่านกระบวนการหาสมาชิก ด้วยการจ่ายผลตอบแทนที่สูงเกินความเป็นจริงทางธุรกิจ และไม่ได้มีเจตนาจะขายสินค้าอย่างเป็นธรรม

ข้อแตกต่างระหว่างการขายตรงที่ถูกกฎหมายกับธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่
1. ค่าธรรมเนียมในการสมัคร
– ธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมาย ค่าธรรมเนียมในการเริ่มต้นธุรกิจมีอัตราไม่สูงมาก เป็นค่าสมัคร
จ่ายเพื่อเอกสารคู่มือ ความรู้ เอกสารอบรมและผลิตภัณฑ์ตัวอย่างสินค้าเท่านั้น
– ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่ ค่าธรรมเนียมในการสมัครสูง ผู้สมัครจะถูกหลอกให้จ่าย
ค่าฝึกอบรมและซื้อสินค้าเกินความต้องการซึ่งอาจมาในรูปสินค้าเป็นส่วนใหญ่ และรายได้ของผู้ที่อยู่ในระบบและผลกำไรของบริษัทส่วนใหญ่มาจากการรับสมาชิกใหม่

2. สินค้าและบริการ
– ธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมาย สินค้าจะมีคุณภาพสูง ยอดขายจะมาจากการจำหน่ายสินค้า
และจะเน้นที่ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ และจะมีการรับประกันสินค้าโดยการคืนเงิน และจะมีการเปลี่ยนสินค้าหรือขายสินค้าคืนบริษัทได้
– ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่ ไม่มีการรับรองเรื่องคุณภาพสินค้า และไม่มีการสนใจ
ในการขายและไม่มีนโยบายซื้อสินค้ากลับคืนเพราะอาจทำให้ระบบแชร์ลูกโซ่ล้มได้

3. การจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน
– ธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมาย การจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนจะขึ้นอยู่กับการทำงานของคนขาย และยอดขาย ซึ่งหมายถึงรายได้หรือผลประโยชน์ตอบแทนมาจากการขายสินค้า
– ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่ การจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนมาจากการหาสมาชิกใหม่

4. ความก้าวหน้าของธุรกิจ
– ธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมายมีโอกาสเติบโตได้เสมอ เนื่องผู้บริโภคจะมีการซื้อสินค้าซ้ำเพราะ พอใจในสินค้า บริษัทจึงสามารถออกสินค้าใหม่เพื่อขยายตลาดได้
– ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่ โอกาสที่ธุรกิจจะล้มมีค่อนข้างสูง เพราะเมื่อดำเนินการ ไประยะหนึ่งจะไม่มีสมาชิกเข้าร่วมลงทุน ส่งผลให้ไม่มีเงินจ่ายหมุนเวียนในระบบธุรกิจและระบบปิระมิดจะล้มในที่สุด

5. การได้ความคุ้มครองทางกฎหมาย
– ธุรกิจขายตรงที่ถูกกฎหมาย ผู้บริโภค ผู้ขาย และบริษัทขายตรงจะได้รับความคุ้มครองตาม กฎหมาย (พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545) ซึ่งผู้ประกอบการที่จะทำธุรกิจขายตรงจะต้องขอจดทะเบียน ณ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
– ธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่ เป็นระบบที่ผิดกฎหมายในประเทศไทย

ประเภทของธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่
1. ประเภทแรก คือ บริษัทที่มองเห็นค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ แม้ว่าจะมีสินค้าอุปโลกน์ขึ้นมา แต่ลักษณะการแนะนำคนเข้ามาสมัครจะระบุอย่างชัดเจนว่า จะได้ส่วนแบ่งจากการหาสมาชิก ซึ่งลักษณะแบบนี้ จะสังเกตได้ง่าย เช่น สินค้าไม่มีคุณภาพ สถานที่และเอกสารต่างๆ ไม่มีมาตรฐาน หากจะมองกันไปที่กระบวนการ ทำตลาดแล้วจะเห็นได้ว่า ไม่ได้นำเสนอสินค้ามากนัก ไม่ได้สาธิตสินค้ากันอย่างจริงจัง มีสินค้าอยู่ไม่กี่รายการ นอกจากไม่ได้พูดถึงตัวสินค้าอย่างจริงจังแล้ว ยังเน้นการนำเสนอแผนการตลาดเป็นการล่าหัวคิว โดยเน้นรายได้กันเป็นสัปดาห์หรือเป็นรายวัน และยังไม่มีการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาคุณภาพสมาชิกในการทำตลาดอย่างมีคุณภาพและมาตรฐาน
2. ประเภทที่สอง คือ บริษัทประกอบธุรกิจขายตรงในระบบหลายชั้นที่ถูกกฎหมาย มีการสร้างบริษัท ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะแตกต่างจากประเภทแรกทั้งในเรื่องของสถานที่ หรือเอกสารหลักฐานจะมีครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งดูผิวเผินภายนอกแล้วมีความน่าเชื่อถือมาก แม้แต่ผู้บริหาร ที่ปรึกษา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ทุกอย่างล้วนดูมีคุณภาพทั้งสิ้น และบริษัทยังมีแผนการตลาดที่ดึงดูดใจคน โดยจะมีแผนการตลาด 2 แบบ ให้สามารถทำแบบที่ถูกกฎหมาย ก็ได้ หรือเป็นการล่าหัวคิวเต็มตัวก็ได้
ในปัจจุบันมีบริษัทหลายบริษัทที่ไม่สามารถดำเนินการตามแผนการตลาดที่ถูกกฎหมายได้ตามยอด จึงเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมแผนการตลาดลักษณะแชร์ลูกโซ่โดยเปิดซ้อนขึ้นมาอีกแผนหนึ่ง ซึ่งหากผู้ที่ไม่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในเรื่องธุรกิจขายตรงเป็นอย่างดีก็มีโอกาสที่จะถูกหลอกจนหมดเนื้อหมดตัวได้

สินค้าและบริการที่ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงแอบแฝงแบบแชร์ลูกโซ่นิยมใช้ในการหลอกลวง
– ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม เช่น สาหร่าย เห็ดหลินจือ น้ำลูกยอ เป็นต้น
– สมุนไพร เช่น โสมเกาหลี
– อัญมณี เช่น เพชร พลอย เครื่องประดับ
– สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น กาแฟโสม
– สินค้าเกษตร เช่น ปุ๋ยเคมี เป็นต้น
– การบริการ เช่น การจัดสรรวันพักผ่อน บริการจัดคอร์สการศึกษา เป็นต้น

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ประมวลกฎหมายอาญา
ความผิดฐานฉ้อโกง
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
มาตรา 343 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๓๔๑ ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิด ความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ต้องด้วยลักษณะดังกล่าวในมาตรา ๓๔๒ อนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท

พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527
มาตรา 4 เป็นการหลอกลวงประชาชนโดยให้ชักชวนให้ลงทุนโดยนำเงินหรือทรัพย์สิน และให้ไปชักชวนคนให้นำเงินมาลงทุนต่อไปเรื่อย ๆ ต่อกันไปไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง โดยผู้หลอกลวงมิได้นำเงินที่ได้มาไปประกอบธุรกิจที่ถูกกฎหมายเพียงแต่นำเงินที่ได้มาจากผู้ลงทุนรายใหม่ไปหมุนเวียนจ่ายให้แก่ผู้ลงทุนรายเก่า
มาตรา 5 เป็นความผิดเกี่ยวกับการโฆษณาชักชวนให้ประชาชนมาสมัครสมาชิกและนำเงินมาลงทุน ตามลักษณะของมาตรา 4
มาตรา 12 ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา 4 หรือมาตรา 5 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 500,000 บาท ถึง 1,000,000 บาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืน

พระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545
มาตรา 19 ห้ามผู้ประกอบธุรกิจขายตรงชักชวนบุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่าย โดยตกลงว่าจะให้ผลตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่าย
มาตรา 20 ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงต้องจดทะเบียนธุรกิจขายตรงต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)

บทความโดย สำนักงานเศรฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง

Leave a Reply